โครงไม้สักสวนป่าจ๊อยท์ 17x42x2500mm

ไม้สักจ๊อยท์สวนป่า
 
เป็นการนำไม้สักท่อนสั้นที่ได้จาก "ไม้สักสวนป่า" (ไม้สักที่ปลูกในพื้นที่เชิงพาณิชย์ มีการจัดการและตัดโค่นตามรอบอายุที่กำหนด) มาผ่านกระบวนการประสานกันให้เป็นไม้ท่อนยาว โดยการทำรอยต่อที่ปลายไม้แต่ละท่อนเป็นลักษณะฟันปลา (Finger Joint) เหมือนที่เห็นในภาพ แล้วนำมาอัดเชื่อมต่อกันด้วยกาวอุตสาหกรรมคุณภาพสูง

ไม้สักสวนป่า (Plantation Teak): เป็นไม้สักแท้ที่ปลูกขึ้นโดยเฉพาะ ซึ่งมีข้อดีคือช่วยลดการใช้ไม้จากป่าธรรมชาติ เป็นทรัพยากรหมุนเวียน แต่โดยทั่วไปอาจมีสีไม้อ่อนกว่า มีกระพี้ (ส่วนของเนื้อไม้ที่อยู่ระหว่างเปลือกและแก่นไม้) ปนมากกว่า และมีลายไม้ที่ห่างกว่าไม้สักเรือนเก่าหรือสักทองที่มาจากป่าธรรมชาติ
การทำจ๊อยท์ (Finger Jointing): เป็นเทคนิคการต่อไม้ที่แข็งแรง ทำให้สามารถนำไม้ท่อนสั้นมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่ได้คือไม้ที่มีความยาวตามต้องการ มีความตรงสม่ำเสมอ และลดการบิดงอหรือโก่งตัวได้ดีกว่าไม้สักท่อนยาวแบบปกติ
 
ราคาเข้าถึงง่าย: มีราคาถูกกว่าไม้สักแผ่นใหญ่ที่ตัดมาจากท่อนซุงโดยตรงอย่างชัดเจน ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงความสวยงามของไม้สักได้ง่ายขึ้น

เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: เป็นการใช้ทรัพยากรไม้อย่างคุ้มค่าที่สุด ลดปริมาณเศษไม้เหลือทิ้งจากการแปรรูป และใช้ไม้จากป่าปลูกซึ่งมีการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน

ขนาดได้มาตรฐาน: ไม้ที่ได้จากการทำจ๊อยท์จะมีความตรงและมีขนาดที่สม่ำเสมอแน่นอน เหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง

ลดการบิดงอ: การนำไม้ท่อนสั้นมาต่อกันช่วยกระจายแรงเค้นในเนื้อไม้ ทำให้ไม้โดยรวมมีการบิดตัวหรือโก่งงอน้อยกว่าไม้ท่อนเดียว

คงคุณสมบัติของไม้สัก: ยังคงมีคุณสมบัติเด่นของไม้สักในเรื่องความทนทานต่อปลวกและมอดตามธรรมชาติ แม้จะเป็นไม้จากสวนป่าก็ตาม
 
ความสวยงามของลายไม้: จะมองเห็นรอยต่อของไม้เป็นลายฟันปลา ซึ่งอาจไม่เหมาะกับงานที่ต้องการโชว์ลายไม้สักต่อเนื่องแบบแผ่นเดียว และสีของไม้อาจไม่สม่ำเสมอเท่ากันตลอดทั้งชิ้น

ความแข็งแรงในการรับแรงดัด: แม้รอยต่อจะแข็งแรง แต่ก็ไม่เหมาะกับงานโครงสร้างหลักที่ต้องรับแรงดัดหรือแรงกระแทกสูงๆ เท่าไม้แผ่นเต็ม

ความทนทาน: แม้จะทนปลวก แต่ความทนทานโดยรวมต่อสภาพอากาศอาจไม่เท่าไม้สักเรือนเก่าที่มีอายุมากกว่าและมีน้ำมันในเนื้อไม้สูงกว่า